[Fanfic:SteveXTony] First date
งานแปลของฟิคคู่ สตีฟโทนี่ จาก ค่าย มาร์เวล ค่ะ
ผู้เข้าชมรวม
756
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
Title : First date(s)
Author : ashinan
Pairing : SteveXTony
Translator : Bloody Snow
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
สวัสดีผู้อ่านทุกท่านนะคะ เนื่องด้วยวันนี้ 4 เมษายน วันเกิดของป๋าดาวน์นีย์ผู้เป็นที่รักยิ่ง เลยอยากจะมาแปลฟิค Stony ประเดิมวันเกิดปีนี้กัน เป็นคู่หนึ่งที่น่ารักกันมากๆ หากมีส่วนไหนควรปรับปรุงแก้ไขในผลงานชิ้นนี้ ผู้อ่านสามารถแนะนำติชมเพิ่มเติมได้เลยนะคะ >w<
ลิ้งค์สู่นิยายต้นฉบับค่ะ >>> http://archiveofourown.org/works/348944
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“ถ้าจะชวนคนที่เปรียบเหมือนกับสัญลักษณ์ของชาติไปออกเดทด้วยนี่จะต้องทำอะไรบ้าง?” โทนี่ถามเพ็พเพอร์ที่เงยหน้าขึ้นมามองเขาจากกองงานพร้อมกับคิ้วที่เลิกขึ้นด้วยความสงสัย
“ทำไม?” เพ็พเพอร์ถามกลับโทนี่ที่กำลังชักสีหน้าเมื่อเขาเห็นแบบฟอร์มโครงการ Hinlim ที่กำลังรอการเซ็นอนุมัติอยู่ตรงหน้า และเพ็พเพอร์ก็จรดปลายปากกาเซ็นมันเรียบร้อยหลังจากนั้น “โทนี่ นี่คุณคิดจะวางแผนทำอะไรกัน?”
“เปล่านี่!” โทนี่ตอบเธอราวกับถูกสบประมาทอะไรบางอย่างจนเพ็พเพอร์ต้องหรี่ตามอง “โอเค ก็ได้ ฉันแค่…ฉันกำลังอยู่ในช่วงแก้ไขความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับสตีฟน่ะ เธอเองก็เคยเห็นเขาแล้วใช่ไหม? นอกจากรูปร่างหน้าตาจะสมบูรณ์แบบไปทุกอย่างแล้ว ฉันว่าเขาเองก็ไม่เลวนะ ถึงแม้ว่าจะดูงงๆ เวลาที่ฉันพูดถึงหนังบางเรื่องก็ตามที แต่สตีฟเองก็กำลังอยู่ในช่วงของการเรียนรู้ และก็สามารถที่จะเริ่มเข้าใจระบบอันซับซ้อนที่ฉันใส่ไว้ในฐานข้อมูลของ SHIELD ได้แล้ว เขาแฮ็คมันได้ง่ายๆ เลย แล้วฉันก็ -”
“รัก หรือ หลง?” เพ็พเพอร์พูดขึ้นตัดบทโทนี่
“อะไรนะ?”
“สิ่งที่นายเป็นอยู่ตอนนี้ คือ ความรัก หรือ การหลง โทนี่” เพ็พเพอร์ชี้ปลายปากกามาที่เขาก่อนจะเคาะลงที่ปลายจมูกทำให้โทนี่ต้องยกมือขึ้นปัดมันออก
“เธอถามฉันเรื่องแบบนั้นไม่ได้หรอกนะ เพ็พ ฉันน่ะ – เธอก็รู้นี่นา ว่าฉันไม่เก่งเรื่องพวกนั้น” โทนี่หยิบปากกาของเธอมาและเริ่มสร้างอะไรบางอย่างจากคลิปหนีบและลวดเย็บกระดาษ เขากำลังคิดถึงคำว่า ‘สตรอว์เบอร์รี่’ ด้วยเหตุผลอะไรบางอย่างก่อนจะเริ่มสร้างจากส่วนฐานขึ้นมา
“ก็จริงอยู่ แต่นายถามฉันถึงการเดท ไม่ใช่การยั่ว ดังนั้น ฉันขออนุมานว่านายหมายถึงคำแรกละกันนะ” โทนี่ได้ยินสิ่งที่เธอพูดและตัดสินใจว่าจะไม่ตอบคำถามนั้น เพราะความเป็นไปได้ของการล้มเหลวมันสูงจนจะล้มทับเขาอยู่แล้ว เพ็พเพอร์ยื่นมือมาดึงหนึ่งในคลิปหนีบของเขาออกไปส่งผลให้โครงสร้างทั้งหมดล้มตัวลงมาจนโทนี่ต้องหันไปถลึงตามอง “สนใจที่ฉันพูดหน่อยสิ ฉันอุตส่าห์กำลังบอกทางแก้ไขเป็นวิทยาทานให้นายอยู่นะ”
“ไม่ เธอกำลังโหดร้ายทารุณกับฉันอย่างไม่จำเป็น และกำลังล้อเลียนฉันอยู่ต่างหาก” เพ็พเพอร์ถึงกับกลอกตาใส่สิ่งที่โทนี่พูด
“เอาล่ะ ฉันจะพูดเรื่องต่อไปนี้ แค่ครั้งเดียว และนายควรจะทำตามสิ่งที่ฉันบอกซะ นายควรจะทำ เพราะมันจะเป็นหนทางเดียวที่ทำให้นายผ่านปัญหาตอนนี้ไปได้ และสามารถที่จะมีความสัมพันธ์ที่น่าจะอยู่รอดต่อไป โอเคมั้ย?” เพ็พเพอร์เซ็นเอกสารเพิ่มเติมเมื่อโทนี่โน้มตัวมาใกล้เธอมากขึ้น “นี่เป็นเคล็ดลับของการชวนคนที่เปรียบเหมือนสัญลักษณ์ของชาติของนายออกไปเดทนะ : แค่ชวนเขาไปเดทซะ”
โทนี่ใช้มือขยี้ผมทันทีที่ได้ยินสิ่งที่เพ็พเพอร์พูดออกมา “ไม่ แบบนั้นไม่ได้ ฉันลองคำนวณทางคณิตศาสตร์ดูแล้ว ลองแม้กระทั่งใส่ตัวแปรทุกอย่าง และความเป็นไปได้ทั้งหมดที่มันจะได้ผลเมื่อทำแบบนั้นมันแทบจะเป็นศูนย์ หรือ ถ้าสตีฟตอบตกลงจริงๆ กราฟบอกฉันว่าความสัมพันธ์ของพวกเราจะจบลงภายในสามอาทิตย์” โทนี่ถึงกับฟุบหน้าลงกับโต๊ะทำงาน “ช่วยฉันที เพ็พเพอร์”
เพ็พเพอร์ถอนหายใจก่อนจะตอบว่า “ฉันกำลังช่วยนายอยู่นะ โทนี่ นายแค่ต้องเก็บความกลัวของนายไว้แล้วลองเสี่ยงดูสักครั้ง ใครจะรู้ล่ะ นายอาจจะชนะโชคครั้งนี้ก็ได้”
“เธอไม่ได้ช่วยอะไรฉันเลย บอกทีซิว่าทำไมฉันถึงต้องถ่อบินมาถึงที่นี่น่ะ”
“เพราะว่านายต้องการความชาญฉลาดของฉัน และ นายเองก็คงจะคิดถึงฉันล่ะสิ”
โทนี่ยกยิ้มให้กับโต๊ะ พลางใช้นิ้วจิ้มไปที่คลิปหนีบกระดาษตัวหนึ่ง “ก็คงใช่ล่ะนะ”
แน่นอนว่าคำแนะนำของเพ็พเพอร์ฟังดูเรียบง่ายแต่ในขณะเดียวกัน เขาเองก็ยังคงคิดไม่ออกว่าจะใช้มันในการเริ่มต้นยังไงดี ทุกครั้งที่เขาจะเอ่ยปาก เขารู้สึกว่าลิ้นมันพันกันไปหมด ทำได้เพียงจ้องมองสตีฟนิ่งๆ ราวกับสาวแรกรุ่น และจบลงด้วยการพาตัวเองกลับมาที่แล็บทุกครั้ง สตีฟที่ดูเหมือนจะสังเกตเห็นสภาพอารมณ์ของเขาจึงลากเขาออกไปร้านกาแฟด้วยกัน ซึ่งโทนี่หวังเป็นอย่างยิ่งว่ามันคือการเดทจริงๆ เขายังคงขลาดเกินกว่าที่จะเอ่ยปากถามแม้กระทั่งตอนที่สตีฟเดินไปยังเคาน์เตอร์เพื่อสั่งเครื่องดื่มให้แก่เขาที่ตอนนี้รู้สึกตัวเองมืดมนยิ่งกว่ากาแฟดำเสียอีก โทนี่ก่นด่าเพ็พเพอร์ในใจก่อนจะส่งข้อความที่ประกอบไปด้วยคำว่า ‘ล้มเหลว’ หรือ ‘ชาญฉลาดบ้านเธอสิ’ และอื่นๆ อีกมากมายไปหา ทว่าเพ็พเพอร์กลับตอบกลับมาด้วยไอคอนหน้ายิ้มเท่านั้น และเมื่อสตีฟวางจานกาแฟลงตรงหน้าเขาพร้อมกับถามถึงความเสียหายครั้งล่าสุดที่ฮัลค์ทำไว้กับบ้านที่น่าสงสารของเขา โทนี่จึงได้ถอนหายใจออกมา
ความพยายามครั้งที่สอง โทนี่ได้ลองคำนวณใหม่อีกครั้งและพบว่ามีโอกาสที่จะสำเร็จแม้เพียงน้อยนิดก็ตาม จึงเริ่มพูดถึงการออกไปเดทอย่างจริงจังจนสตีฟหันมามองเขาด้วยสีหน้าแปลกๆ ก่อนจะลากโทนี่ออกไปร้านกาแฟเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับกลยุทธ์การต่อสู้ ต่อด้วยไปดูหนังที่โทนี่เคยอ้างว่าเป็นแหล่งอ้างอิงทางวัฒนธรรมเพื่อให้ตามทันโลกเพราะเขาเองก็เริ่มเหนื่อยกับการที่ไม่เข้าใจในตัวโทนี่เหมือนกัน ซึ่งโทนี่ก็ตามใจเขาแต่โดยดี แหงล่ะ โทนี่จะไม่ตามใจได้ยังไงกัน – แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการเสียหน่อย โทนี่พยายามต่อสู้กับตัวเองเพื่อทำตามคำแนะนำของเพ็พเพอร์และชวนออกเดทอีกครั้ง แต่ยิ่งสตีฟพาโทนี่ตะลอนในโลกแห่งความเป็นจริงเท่าไหร่ โทนี่ยิ่งเห็นความเป็นไปได้ในการมีความสัมพันธ์กับสตีฟที่ใกล้ชิดกว่านี้น้อยลงเท่านั้น ความสัมพันธ์ในตอนนี้ของทั้งสองคนคือ ‘มิตรภาพระหว่างเพื่อน’ และโทนี่คงจะต้องตัดแขนขวาตัวเองทิ้งหากเขาทำมันพังหรือแย่กว่าเดิม
ครั้งที่สามและครั้งที่สี่นั้น ไม่มีค่าแม้แต่จะพูดถึงมัน
โทนี่จ้องมองลงไปในถ้วยกาแฟด้วยสายตาอันว่างเปล่า พยายามปรับให้มันมีอุณหภูมิ 37 องศาเซลเซียสตอนที่สตีฟเดินเข้ามาในห้องครัวก่อนเสยผมเปียกๆ ของตนเอง สตีฟทักทายโทนี่ด้วยการหอมแก้มก่อนจะเดินไปยังตู้เย็น พยายามคุ้ยหาซีเรียลยี่ห้อ Fruit Loops ตอนที่โทนี่หันไปคำรามใส่และนั่งหลังตรงดิ่งเมื่อเลื่อนแก้วกาแฟกลับมา
“เดี๋ยวนะ นั่นมันอะไรกัน?”
สตีฟกระพริบตาใส่โทนี่จากตู้เย็น มีเหยือกนมที่กำลังจะเข้าปาก และโทนี่ไม่สามารถจะหยุดจ้องมองเขาได้ เมื่อความรู้สึกถึงรอยจูบของสตีฟยังคงอยู่บนผิวแก้มของเขา โทนี่ไล้นิ้วผ่านจุดนั้นอย่างเหม่อลอยก่อนจะถามขึ้นอีกครั้ง
“นี่นายพึ่ง – ขอโทษนะ นั่นมันอะไรกัน?”
สตีฟขมวดคิ้ว ก่อนที่จะดื่มนมของเขาให้หมด และหยิบถ้วยกาแฟของโทนี่ที่หายไปแล้วครึ่งนึงมาเติมใหม่ พร้อมกับนำไปวางไว้ที่เดิมข้างหน้าโทนี่ อุณหภูมิ 37 องศาเซลเซียสพอดีเป๊ะ มือของโทนี่สั่นเทาตอนที่เขายื่นมือไปรับมา และเมื่อมือสตีฟสัมผัสกับนิ้วของเขาอย่างระวัง โทนี่เหลือบมองร่างสูงชั่วครู่ พยายามทำความเข้าใจกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นและความเป็นไปได้ของการที่เขาจะเข้าใจผิดยามที่สตีฟสำรวจมือของเขา ไล้ไปมาบริเวณผิวส่วนที่ด้านหนาตรงขอบฝ่ามือของเขาที่โทนี่สามารถตอบได้ว่าแต่ละรอยแผลเป็นหรือส่วนนูนนั้นเขาได้มาจากไหน เขาสามารถบอกสตีฟได้ ณ วินาทีนั้น แต่เมื่อสตีฟยิ้มกลับมา คำพูดทุกอย่างที่อยู่ในหัวของเขาก็พลันหายไป
“นายไม่รู้งั้นหรือ?” โทนี่ได้แต่กระพริบตาใส่สตีฟที่ยิงคำถามนั้นใส่
“รู้เรื่องอะไรล่ะ? เห็นๆ กันอยู่ว่าฉันค่อนข้างช้าในการรับรู้เรื่องพวกนี้ เพราะว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้น่ะมัน…มันเป็นสิ่งที่ความเป็นไปได้ที่ฉันคำนวณไว้ว่า มันไม่มีทางเกิดขึ้น นะสตีฟ” โทนี่พูดก่อนละสายตาไปจากนัยน์ตาสีสว่างของสตีฟจนสตีฟต้องเดาะลิ้นกับการกระทำนั้น
“ฉันได้รับข้อความที่น่าสนใจอันหนึ่งจากคุณพ็อตส์เมื่อไม่กี่อาทิตย์ก่อน” สตีฟพูดพร้อมกับปล่อยมือของโทนี่ออก เขารู้สึกเย็นทันทีที่สัมผัสนั้นหายไปก่อนจะกระชับนิ้วไว้กับแก้วกาแฟตรงหน้า และหรี่ตามองจอสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่สตีฟยื่นมาให้เขาดู
‘ตอบคำถามที่คุณได้ถามมาคราวก่อน : ชวนเขาไปเดทซะ ฉันแน่ใจว่าโทนี่ไม่ปฏิเสธแน่นอน’
‘แน่ใจเหรอครับ?’
‘เชื่อฉันสิ สตีฟ สติปัญญาของฉันน่ะไร้ขอบเขต และความรู้ของฉันที่มีเกี่ยวกับคนที่ชื่อว่า โทนี่ สตาร์ค มันมากมายจนคุณคาดไม่ถึงเลยล่ะ’
“แล้วฉันก็เลยชวนนายออกเดทยังไงล่ะ” โทนี่อ่านทวนซ้ำข้อความนั้นอีกสองสามรอบก่อนที่สตีฟจะพูดต่อ “แล้วเมื่อนายตอบตกลง ฉันแทบจะไม่เชื่อในความโชคดีของตัวเองเลย แต่พอคุณพอตส์บอกว่านาย เอ่อ ค่อนข้างจะช้าในเรื่องพวกนี้ อย่างที่นายบอก ฉันก็เลยต้องทำอะไรสักอย่างที่มันชัดเจนมากๆ เพื่อที่นายจะได้รู้ตัวสักที”
“นี่นายกำลังบอกฉันว่า” โทนี่เริ่มต้นพูดพลางก้มลงมองถ้วยกาแฟด้วยความสับสนงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น “นายกำลังบอกฉันว่าพวกเราได้ไปเดทกันมาแล้วอย่างนั้นเหรอ”
“ที่จริงก็ เก้าครั้งแล้วล่ะ” สตีฟชี้ชัดถึงจำนวน จนโทนี่ต้องฟุบลงไปนอนบนเคาน์เตอร์
“โอเค” โทนี่งึมงำกับเคาน์เตอร์หินอ่อนที่เขาฟุบลงไป แทนที่จะก้มลงมองถ้วยกาแฟอย่างเดิมเพราะมันดูจะสะท้อนหน้าของเขาได้ชัดเจนเกินไป
ร่างสูงส่งรอยยิ้มพร้อมกับลูบหัวโทนี่ “ฉันกินข้าวเช้าได้แล้วใช่มั้ย? เราจะได้มาคุยกันว่านายแย่ขนาดไหนเวลามีเรื่องเดทมาเกี่ยวข้อง ฉันหมายถึง นี่มันก็สามอาทิตย์แล้วนะ โทนี่ ฉันอาจจะมาจากยุค 40 แต่ไม่มีใครรอนานขนาดนั้นสำหรับ การจูบ หรอกนะ เราไม่จำเป็นต้องมีเซ็กซ์หรืออะไร แต่แค่จูบสักจูบก็ดีเยี่ยมแล้วล่ะ รู้ตัวรึเปล่าว่า -”
โทนี่กระโจนใส่สตีฟและหยุดคำพูดที่กำลังจะออกมาจากปากนั้นเนิ่นนาน ดูท่าว่าเขาคงต้องพลาดมื้อเช้าไปเสียแล้วล่ะ
หลังจากที่สตีฟกับโทนี่เข้าใจกันดีแล้ว โทนี่จึงได้รีบส่งข้อความเร็วแสงไปยังเพ็พเพอร์ว่า ‘เธอถูกไล่ออก >:(’
และได้รับคำตอบกลับมาในเวลาชั่วอึดใจว่า ‘ด้วยความยินดี ;)’
ผลงานอื่นๆ ของ Bloody Snow ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Bloody Snow
ความคิดเห็น